March 15, 2023
Autoimmune หรือ โรคแพ้ภูมิต้วเอง หรือภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเองที่หลายๆคนรู้จักในชื่อของ โรค SLE ไม่ได้มีแค่ SLE แต่มีมากกว่า 100โรคที่เกิดจากการที่เราแพ้ภูมิตัวเองและจัดว่าเป็นโรคแพ้ภูมิตังเอง ซึ่งสภาพแวดล้อมที่เราอาศัยอยู่ในปัจจุบันทำให้มนุษย์เรามีความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลาที่จะทำให้เราเป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง หรือภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเองนี้
เรามาดูกันดีกว่าว่าเจ้าโรคนี้คืออะไร และอะไรเป็นสาเหตุหลักที่สามารถทำให้เราเป็นโรคกลุ่มนี้ได้ เพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยงได้ทันค่ะ
Autoimmune Disease หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง คือ กลุ่มโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานมากกว่าปกติ และปล่อยโปรตีนออโตแอนติบอดี (Autoantibody) เข้าโจมตีเซลล์หรือเนื้อเยื่อที่แข็งแรงในร่างกาย เหมือนการต่อสู้กับเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือเชื้อก่อโรคอื่นๆ ทำให้เนื้อเยื่อหรืออวัยวะนั้นๆเสียหาย และเกิดเป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของโรคภูมิแพ้ตัวเอง:
1. เพศ: ผู้หญิงมีความเสี่ยงมากกว่าผู้ชาย ซึ่งอาจเป็นผลมาจากฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลงบ่อย
2. ฮอร์โมนเพศ: ภูมิต้านทานผิดปกติมักเกิดขึ้นในช่วงวัยเจริญพันธุ์ หรือช่วงของการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนที่สำคัญ เช่น การตั้งครรภ์ การคลอดบุตร วัยหมดประจำเดือน
3. ชาติพันธุ์: บางชาติพันธุ์มีความเสี่ยงสูงกว่าชาติพันธุ์อื่นๆ
4. พันธุกรรม: ผู้ที่มีคนในครอบครัวป่วยด้วยโรคภูมิต้านทานเนื้อเยื่อของตนเองจะมีความเสี่ยงสูงกว่า
5. การติดเชื้อ: อาจกระตุ้นให้ภูมิต้านทานผิดปกติ หรือมีอาการแย่ลงได้
6. ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม: เช่น แสงแดด สารเคมี การติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย อาจทำให้เกิดโรคภูมิต้านตนเอง หรือกระตุ้นให้อาการกำเริบหรือแย่
7. อาหาร: โดยเฉพาะอาหารตะวันตกเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคภูมิต้านทานเนื้อเยื่อของตนเอง เนื่องจากเป็นอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง อีกทั้งมักเป็นอาหารแปรรูป
โรคภูมิแพ้ตัวเองที่พบบ่อยได้แก่:
1. โรคเบาหวานชนิดที่1
2. โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
3. โรคลูปัส (Systemic lupus erythematosus : SLE)
4. โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (Inflammatory bowel disease)
5. โรคเซลิแอค (Celiac Disease)
6. โรคสะเก็ดเงิน/โรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน
7. โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis)
8. โรคแอดดิสัน (Addison’s disease)
9. โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myasthenia gravis)
10. โรคเกรฟส์ (Graves’ Disease)
11. โรคมะเร็งต่างๆ
และอื่นๆอีกมากมาย…
การรักษาโรคภูมิแพ้ตัวเอง:
* ยากดภูมิคุ้มกัน เพื่อยับยั้งการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
* ยาลดภูมิคุ้มกันขนาดสูง อาจใช้ในบางกรณี เช่น การรักษามะเร็ง
* ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) ลดการอักเสบ หรือใช้เพื่อรักษาอาการกำเริบเฉียบพลัน
* ยาต้านการอักเสบ ลดการอักเสบและความเจ็บปวด
* ยาแก้ปวด เช่น ยาพาราเซตามอล
* และการรักษาตามความบกพร่องหรือเจาะจงในด้านอื่นๆตามโรคที่เป็น
อาการโรคภูมิแพ้ตัวเองแต่ละชนิดจะมีอาการแตกต่างกันออกไป แต่จะมีอาการร่วมที่พบได้ดังนี้:
* มีปัญหาระบบลำไส้ และการขับถ่าย
* ปวดท้อง หรือมีปัญหาในระบบย่อยอาหารบ่อย
* ติดเชื้อง่าย ป่วยบ่อย
* ปวดหัว เป็นไข้บ่อย
* เหนื่อยล้า อ่อนเพลียง่าย
* เครียดง่าย นอนไม่หลับ
* ผิวหนังมีปัญหา เช่น ผื่นผิวหนัง เป็นสิว
* ปวดข้อ หรือข้อบวม
* ต่อมในร่างกายบวม
* ระบบเผาผลาญผิดปกติ อ้วนง่าย หรือผอมเกิน
* ระบบทางเดินหายใจมีปัญหา หอบหืด
* เป็นภมิแพ้ต่างๆ
หากคุณมีอาการเหล่านี้เยอะแนะนำให้รีบพบแพทย์เพื่อวินิฉัย อย่าปล่อยไว้จนกลายเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองค่ะ เพราะความน่ากลัวคือโรคกลุ่มนี้ไม่สามารถหายขายได้และหากคุณเป็น1โรคในกลุ่มนี้มีโอกาศสูงในการพัฒนาไปเป็นโรคอื่นๆในกลุ่มนี้ได้ทั้งหมดค่ะ
เมนี่มอร์โปรไบโอติกส์ แบคทีเรียดีที่ร่างกายต้องการกุญแจสู่สุขภาพแข็งแรง ระบบต่างในร่างกายสมดุลทำงานราบรื่น และยังสามารถช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ตัวเองเหล่านี้ได้ค่ะ เพราะเมื่อแก่ตัวไปแบคทีเรียดีก็จะลดลงตามวัย สภาพแวดล้อม อาหารการกินที่ไม่ดี จึงทำให้เจ้าแบคทีเรียไม่ดียึดคองอนาเขตเข้าโจมตีร่างกายเรา จนทำให้เราป่วยและนำไปสู่โรคแพ้ภูมิตัวเอง
เพราะอย่างนี้แล้วโปรไบโอติกจึงจำเป็นต่อร่างกาย เรียกได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญสู่สุขภาพที่ดีเลยค่ะ
เมนี่มอร์ห่วงใยคุณเสมอ
#probiotic #synbiotic #autoimmune #guthealth #ibd #ibs #sle #โปรไบโอติก #ซินไบโอติก #ภูมิแพ้ตัวเอง #สำไส้อักเสบ #manymoreswellness